การจัดการศึกษาปฐมวัยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้จัดตั้งโรงเรียนราชกุมารขึ้นในปี ร.ศ. 111(พ.ศ.2435) และโรงเรียนราชกุมาร ร.ศ. 112
(พ.ศ.2436)
ขึ้นสำหรับเป็นสถานศึกษาของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอที่ยังทรงพระเยาว์
และมีแนวความคิดในการจัดที่มุ่งเสริมให้มีการสร้างแรงจูงใจให้แก่เด็ก
ให้ใช้วิธีการสอนที่ทำให้เด็กเรียนรู้ด้วยความสนุกสนาน
การพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทยเริ่มขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ได้เป็นองค์ก่อตั้ง “โรงเลี้ยงเด็ก” เป็นแห่งแรกในปี พ.ศ.2433
โดยพระองค์ทรงบริจาคทรัพย์ซื้อทั้งที่ดินและตึกโรงเรือนต่างๆ
ซ่อมแซมและก่อสร้างบริเวณและเครื่องใช้เครื่องต่งทั้งปวงบริบูรณ์พร้อมเสร็จ
จัดเป็นโรงสำหรับเลี้ยงเด็กขึ้นที่ตรอกโรงเลี้ยงเด็กตำบลสวนมะลิ ริมถนนบำรุงเมือง
เพื่อจัดการบำรุงเลี้ยงทารกเด็กชาย หญิง บุตรคนยากจน
ต่อมาในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
แนวคิดการจัดการปฐมวัยศึกษาก็ได้ถูกนำมาใช้ในโรงเรียนอนุบาล
ทั้งนี้หน่วยงานที่นำมาใช้จะเป็นโรงเรียนราษฎร์เป็นส่วนใหญ่
ต่อมารัฐบาลได้มีการจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลของรัฐขึ้นป็นแห่งแรกคือโรงเรียนละอออุทิศ
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมเด็กให้มีความพร้อมก่อนเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา
โรงเรียนอนุบาลนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากจนทำให้รัฐต้องขยายไปจนทั่วทุกจังหวัด
พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
ความต้องการบริการด้านสถานศึกษาปฐมวัยและสถานรับเลี้ยงเด็กนับวันจะยิ่งเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการพัฒนาประเทศที่มุ่งไปพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
ทำให้แม่บ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านมากขึ้น เพื่อหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัว
นอกจากนี้สตรียังได้รับการยอมรับในตลาดแรงงานมากขึ้นในหลานสาขาอาชีพ
ประกอบโครงสร้างของครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงไปจากครอบครัวขนาดใหญ่
กลายมาเป็นครอบครัวขนาดเล็ก ส่งผลให้เด็กเล็กขาดแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวช่วยดูแล
(เอกสารอัดสำเนาคู่มือผู้ดำเนินงานศูนย์เด็กเล็ก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.
2542, น. 7)
ููู^^
ตอบลบ